วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

วันอังคาร ที่ 19 เดือนพฤษจิกายน พ.ศ.2556

บันทึกการเรียนสัปดาห์ที่ 3

4. เด็กที่มีความบกพร่องทางร่างกายและสุภาพ (Children with Physical and Health Impairments)

  • เด็กที่มีอวัยวะไม่สมส่วน
  • อวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งหายไป
  • มีปัญหาทางระบบประสาท
  • มีความลำบากในการเคลื่อนไหว
จำเเนกได้ดังนี้
1.) เด็กซีพี (CP;Cerebrai Palsy )

  • การเป็อัมพาตเนื่องมาจากระบบประสาทพิการ หรือมีผลกระทบมาจากสมองที่กำลังพัฒนาการถูกทำรายก่อนคลอด ระหว่างคลอดเเละหลังคลอด
  • การเคลื่อนไหว การพูด พัฒนาการล้าช้า เด็กซีพีมีความบกพร่องที่เกิดจากสวนต่างๆของสมองเเตกต่างกัน
อาการ

  1. อัมพาตเกร็งเเขนขา หรือครึ่งซีก Spastic
  2. อัมพาตของลีลาผิดปกติ Athetoid
  3. อัมพาตสูญเสียการสรงตัว Ataxia
  4. อัมพาตตึงแขน Rigid
  5. อัมพาตแบบผสม Mixed
2. กล้ามเนื้ออ่อนแรง Muscular Distrophy

  • เกิดจากเส้นประสาทสมองที่ควบคุมกล้ามเนื้อส่วนนั้นๆเสื่อมสลายตัว
  • เดินไม่ได้ นั่งไม่ได้ นอนอยู่กับที่
  • มีความพิการซ้อนในระยะหลัง คือ ความจำแย่งลง สติปัญญาเสื่อม
3. โรคทางระบบกระดูกกล้ามเนื้อ (Orthopedic)

  • ระบบกระดูกกล้ามเนื้อพิการแต่กำเนิด เช่น เท้าปุก กระดูข้อสะโพกเคลื่อน อัมพาตครึ่งท่อนล่างเเนื่องจากกระดูกไขสันหลังส่วนล่างไม่ติด
  • ระบบกระดูกกล้ามเนื้อมีการติดเชื้อ เช่น วัณโรค กระดูกหลังโก่ง กระดูผุ เป็นแผลเรื้อรังเป็นหนอง เศษกระดูกผุ
  • กระดูกหัก ข้อเคลื่อน ข้ออักเสพ
4. โปลิโอ (Poliomyelitis)
มีอาการกล้ามเนื้อลีบ เล็ก แต่ไม่มีผลกระทบกับสติปัญา
อาการ

  • ยืนไม่ได้ หรืออาจปรับสภาะให้ยืนได้ด้วยอุกรณ์เสริม
5. แขนขาด้วนแต่กำเนิด (Limb Deficiency)
6.โรคกระดูกอ่อน (Osteogenesis Imperfeta)

2.) ความบกพร่องทางสุขภาพ
     1. โรคชัก (Epilepsy)เป็นลักษณะที่เกิดจากความผิดปกติของระบบสมอง

  • โรคลมบ้าหมู (Grand Mal)

เมื่อเกิดอาการชักจะทำให้หมดสติ และหมดความรู้สึกในขณะชัก กล้ามเนื้อเกร็งหรือแขนขากระตุก กัดฟัน กัดลิ้น

  • การชักในเวลาสั้นๆ (Petit Mal)
- เป็นการชักในช่วงเวลาสั้นๆ 5-10 วินาที
- เมื่อมีอาการชักเด็กจะหยุดชะงักในท่าก่อนชัก
- เด็กจะนั่งเฉย หรืออาจจะตัวสั่นเล็กน้อย

  • การชักแบบรุนแรง (Grand Mal)
- เมื่อมีการชักเด็กจะส่งเสียง หมดความรู้สึกล้มลงกล้ามเนื้อเกร็งเกิดขึ้นราว 2-5 นาที จากนั้นจะหายและนอนหลับไปชั่วคู่

  • อาการชักแบบ Partial Complex
- เกิดอาการเป็นระยะๆ
- กัดริมฝีปากไม่รู้สึกตัว ถูตามแขนขา เดินไปมา
- บางคนอาจเกิดความโกรธหรือโมโห หลังชักอาจจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ และต้องการนอนพัก

  • อาการไม่รู้ตัว (Focal Partial)
- เป็นอาการที่เกิดขึ้นในระยะ เด็กไม่รู้ตัว อาจทะอะไรบางอย่างโดยที่ตัวเองไม่รู้ เช่น ร้องเพลง เดินเหม่อลอกแต่ไม่มีอาการชัก


  • สาเหตุที่ทำให้เกิดความบกพร่องทางร่ายการ
  1. โรคระบบทางเดินหายใจ
  2. โรคเบาหวาน  (Diabetes Mellitus)
  3. โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis)
  4. โรคษีรษะโต (Hydrocephalus)
  5. โรคหัวใจ (Cardiac Conditions)
  6. โรคมะเร็ง
  7. เลือดไหลไม่หยุด (Hemophilia)
  • ลักษณะของเด็กที่บกพร่องทางร่างกายและสุขภาพ
  1. มีปัญหาเกี่ยวกับการทรงตัว
  2. ท่าเดินคล้ายกรรไกร
  3. เดินขากระเผลก หรือเดินเชื้องช้า
  4. ไอเสียงแห้งบ่อยๆ
  5. มักบ่นเจ็บหน้าอก บ่นปวดหลัง
  6. หน้าแดงง่าย มีสีเขียวจางบนแก้ม ริมฝีปากหรือปลายนิ้ว
  7. หกล้มบ่อยๆ
5.เด็กที่มีความบกพร่องทางการพูกและภาษา
คือ เด็กที่พูดไม่ชัด ออกเสียงผิเพี้ยน อวัยวะที่ใช้ในการพูดไม่สามารถเป็นไปตามระดับขั้น การใช้อวัยวะเพื่อการพูดไม่เป็นไปดั่งต้องการ มีอาปกิริยาที่ผิดปกติขณะพูด
     1. ความผิดปกติทางด้านการออกเสียง
  • ออกเสียงผิดเพี้ยนไปจากมาตรฐานของภาษาเดิม
  • เพิ่มหน่วยเสียงเข้าไปในคำโดยไม่จำเป็น
  • เอาเสียงหนักมาแทนอีกเสียงหนึ่ง เช่น กวาด เป็น ฟาด
     2. ความผิดปกติด้านจังหวะเวลาของการพูด เช่น การพูดรัว การพูดติดอ่าง
     3. ความผิดปกตด้านเสียง
  • ระดับเสียง
  • ความดัง
  • คุณภาพเสียง
     4. ความผิดปกติด้านการพูดและภาษาอันเนื่องมาจากพยาธที่สมอง โดยทั่วไปเรียกว่า Dysphasia หรือ aphasis 
  • Motor aphasia 
- พูดช้าๆ พอพูดตามได้บ้างเล็กน้อย บอกชื่อสิ่งของพอได้
- เด็กที่เข้าใจคำถามหรือคำสั่ง แต่พูดไม่ได้ ออกเสียงไม่ออก
- พูดไม่ถูกไวยกรณ์
  • Wernicke's aphasia 
-เด็กไม่เข้าใจคำถามหรือคำสั่ง ได้ยินแต่ไม่เข้าใจคำถาม
-ออกเสียงไม่ติดขัดแต่มักออกเสียผิด หรือใช้คำที่ไม่มีความหมาย
  • Conduction  aphasia 
-เด็กที่ออกเสียงไม่ติดขัด เข้าใจคำถามดีแต่พูดตามหรือบอกชื่อสิ่งของไม่ได้ มักรวมไปถึงกับอัมพาตของร่างกายซีกขวา
  • Nominal aphasia 
-เด็กที่ออกเสียงได้  เข้าใจคำถามดี พูดตามได้แต่บอกชื่อวัตถุไม่ได้เพราะลืมชื่อ บางทีก็ไม่เข้าใจความหมายของคำ  มักเกิดร่วมกับ Gerstmann's syndrome
  • Global aphasia 
-เด็กที่ไม่เข้าใจทั้งภาษาพูดและภาษาเขียน
-พูดไม่ได้
  • Sensory aphasia 
-เด็กที่เขียนเองไม่ได้ เขียนคำตอบ คำถามหรือเขียนชื่อวัตถุไม่ได้  มักเกิดร่วมกับ Gerstmann's syndrome
  • Motor aphasia 
-เด็กที่ลอกตัวอักษรหรือเขียนลอกตามไม่ได้
-เขียนตามตัวพิมพ์ไม่ได้ เกิดจากสมองซีกซ้าย
-เขียนตามคำบอกไม่ได้
  • Cortical alexia
-เด็กที่อ่านไม่ออก เพราะไม่เข้าใจภาษา
  • Motor alexia
-เด็กที่เห็นตัวเขียนหรือตัวพิมพ์ เข้าใจความหมายแต่อ่านออกเสียงไม่ได้
  • Gerstmann's synbrome
-ไม่รู้น้ำ finger agnosia
-ไม่รู้ซ้าย-ขวา allochiria
-คำนวนไม่ได้ acalculia
-เขียนไม่ได้ agraphia
-อ่านไม่ออก alexia
  • Vrsual agnosia
-เด็กที่มองเห็นวัสถุ แต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไรบางทีบอกชื่อนิ้วตัวเองไม่ได้
  • Auditory agnosia
-เด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน แต่แปลความหมายของคำหรือประโยคที่ได้ยินไม่เข้าใจ

ลักษณะของเด็กที่บกพร่องทางการพูดและภาษา

  • ในวัยทารกมักเงียบผิดปกติ ร้องไห้บ่อยๆและอ่อนแรง
  • ไม่อ้อแอ้ภายในอายุ 10 เดือน
  • ไม่พูดภาษาในอายุ 2 ขวบ
  • หลัง 3 ขวบแล้วเด็กยังเข้าใจภาษายาก
  • ออกเสียงตัวสะกดไม่ได้
  • หลัง 5 ขวบ เด็กยังใช้ภาษาที่เป็นประโยคไม่สมบูรณ์ในระดับประถมศึกษา
  • มีปัญหาในการสื่อความหมาย พูดตะกุตะกัก
  • ใช้ท่าทางในการสือความหมาย






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น